สบู่กวนร้อน สบู่ HP( Hot Process)
คุณสมบัติช่วยในเรื่องลดอาการ ผดผื่นคัน สิว กลิ่นตัว
...ความแตกต่างระหว่างสบู่ทำมือ กับ สบู่ในท้องตลาดที่ผลิตตามโรงงานอุตสาหกรรม Soap Chip ถึงแม้ว่าพื้นฐานยังเหมือนเดิมแต่สบู่เหล่านั้นจะมีกระบวนการที่สกัดเอากลีเซอรีนออกไป เพื่อนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ ดังนั้นเมื่อลองสังเกตจากรูปลักษณ์ภายนอกแล้ว สบู่ที่ซื้อตามท้องตลาดจะค่อนข้างแข็งเนื้อสัมผัสก็แข็งมาก แต่!!! สบู่ธรรมชาติที่เราทำเองนั้นเมื่อลองจับดูจะไม่แข็งมากดูมีความนุ่มนวลและ
....ข้อสังเกตที่ 2 คือเมื่อเราเอามาใช้สบู่ทั่วไปอาบน้ำแล้วผิวจะแห้ง และเมื่อผิวเราแห้งเราก็ต้องไปซื้อโลชั่นหรือครีมบำรุงมาทา ซึ่งครีมหรือโลชั่นนั้นก็มีส่วนผสมจากกลีเซอรีนที่สกัดออกมาจากกระบวนการผลิตสบู่นั่นเอง ดังนั้นสบู่ธรรมชาติจึงมีความนุ่มนวลและให้ความชุ่มชื้นแก่ผิวมากกว่าสบู่ทั่วไป
----------------------------------------------------------------------
หลักการพื้นฐานสบู่ธรรมชาติ
..การผลิตสบู่เป็นกระบวนการที่ง่ายไม่ยุ่งยากซับซ้อน แต่ต้องเข้าใจหลักการและการตั้งสูตรสบู่ และหากมีการฝึกฝนทำเป็นประจำก็จะเกิดความชำนาญ
..สบู่เกิดขึ้นมาจากสวนผสมพื้นฐานหลักหลักคือ น้ำด่าง (โซดาไฟ) ไขมัน (น้ำมันพืช) เมื่อนำด่างมาผสมกับน้ำก็เรียกว่าสารละลายด่าง แล้วเมื่อสารละลายด่างมาเจอกับน้ำมันก็จะเกิดเป็นสบู่ ปฏิกิริยานี้เรียกว่า saponification
...น้ำมันพืชหรือไขมันสัตว์ จะเป็นตัวบอกสรรพคุณของสบู่ว่าสบู่มีรูปร่างหน้าตาอย่างไร อาบน้ำแล้วฟองมากฟองน้อย ทำความสะอาดได้ดีหรือไม่ดี เราสามารถกำหนดคุณสมบัติของสบู่เราเองได้โดยเลือกชนิดของน้ำมัน
...นอกจากนี้เรายังสามารถเติมส่วนผสมอื่นเพื่อเพิ่มคุณภาพของสบู่เช่นน้ำนมแพะน้ำนมวัวหรือสมุนไพรเป็นต้น
..ดังนั้น การทำสบู่ในแต่ละครั้ง เราอาจเลือกใช้น้ำมันเพียงชนิดเดียวหรือใช้น้ำมัน 2-3 ชนิดหรือมากกว่านั้นก็ได้ เพื่อให้ได้สบู่ที่มีคุณสมบัติตามที่เราต้องการ แล้วกำหนดสัดส่วนของน้ำมันพืชแต่ละชนิดที่ต้องการในการผลิตสบู่ โดยข้อแนะนำเบื้องต้นสำหรับการทำสบู่อาบน้ำถูตัวทั่วไป
น้ำมันหลัก ให้ใช้น้ำมันมะพร้าว น้ำมันปาล์ม ประมาณ 50 - 70 %
น้ำมันรอง ให้ใช้น้ำมันมะกอก น้ำมันงา น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันรำข้าว น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันข้าวโพด 30%
ด่าง หรือโซเดียมไฮดรอกไซด์ (โซดาไฟ)
..โซเดียมไฮดรอกไซด์มีลักษณะเป็นเม็ดหรือเป็นเกล็ดสีขาว มีอันตราย มี คุณสมบัติเป็นด่างเข้มข้น มีฤทธิ์ในการกัดกร่อน เป็นส่วนผสมที่เราต้องระมัดระวังมากเป็นพิเศษระหว่างการทำสบู่ เพราะถ้าโดนผิวหนังก็จะแสบหรือถ้าสูดดมไอระเหยก็จะระคายเคือง แต่หากมีความระมัดระวังก็จะไม่เกิดอันตรายที่น่ากลัว และเมื่อทำปฏิกิริยากับไขมันแล้วก็จะกลายเป็นสบู่ ไม่เหลือความเป็นด่างหรือความเป็นโซดาไฟเหลืออยู่เลย
..ถ้าเป็นสบู่กวนร้อนหรือ HP ทำเสร็จสามารถอาบได้เลยค่ะ แต่เราจะตากสัก 7 วันเพื่อให้สบู่แข็ง
..สบู่กวนเย็นหรือ CP หลังจากที่ตัดแล้ว ให้เก็บบ่มสบู่ไว้ประมาณ 30 วัน เพื่อให้โซดาไฟทำปฏิกิริยากับไขมันอย่างสมบูรณ์ จึงสามารถนำมาใช้ได้
-------------------------------------------------------------------
สมุนไพรรวม เหงือกปลาหมอ ทองพันชั่ง ฟ้าทะลายโจร ขมิ้นชัน ไพล มะรุม
สบู่สุกแล้วให้เติมสมุนไพรลงไป ตามด้วยน้ำหอมคนให้เข้ากัน
ตักสบู่ใส่โมล ทิ้งไว้ประมาณ 10 ชั่วโมงค่อยนำมาตัด ตากสบู่ไว้ประมาณ 1 -2 สัปดาห์ เพื่อให้สบู่มีความแข็งขึ้นค่อยนำมาใช้
ID Line 0816126840
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น