เรียนทำสบู่ สอนทำสบู่ ครูลิ: ตุลาคม 2018

สบู่น้ำมันธรรมชาติ HP( Hot process)

สบู่ HP (Hot process) หรือสบู่กวนร้อนเป็นกระบวนการทำสบู่กวนร้อนอีกวิธีหนึ่งซึ่งเป็นที่นิยมเนื่องจากส่วนใหญ่จะใช้ได้ทันที ขณะที่สบู่ประเภทนี้กลายเป็นที่ใช้ได้เร็กว่าสบู่ที่ผลิตโดยวิธีกระบวนการแบบกวนเย็น แต่ก็ยังรู้สึกว่าการบ่มยาวนาน 2สัปดาห์จะช่วยให้สบู่แข็งขึ้นอีก

เวลาใช้งานของสบู่จะอ่อนโยนต่อผิว วิธีการทำสบู่กวนร้อนแหละกวนเย็นมีความคล้ายคลึงกันมากโดยแต่ละสูตรจะใช้สูตรพื้นฐานเดียวกันและผสมผสานส่วนผสมในรูปแบบเดียวกัน

สบู่รังไหมมังคุดใบบัวบก

สบู่สมุนไพรใบสะเดา

วิธีการเริ่มต้น คือทำแบบสบู่กวนเย็น CP (Cold process) โดยกวนสบู่ให้เป็นเนื้อ มีเดียมเทรซ แล้วจึงตักเนื้อสบู่ที่ได้ลงหม้อตุ๋นระหว่างการกวนสบู่ ช่วงตุ๋นเเรกๆจะใช้ไฟแรงสูงสุด 5 ถึง 10 นาทีแล้วลดไฟอ่อน ซึ่งใช้วลาประมาณถึง 30- 40 นาทีหรือ 1ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับสูตรน้ำมันปริมาณที่ไม่เกิน 1 กิโลกรัมหรืออาจใช้เวลามากขึ้นหากสบู่มีปริมาณที่มากซึ่งต้องใช้หม้อตุ๋นขนาดใหญ่ระหว่างการตุ๋น

เนื้อสบู่จะค่อยๆเจลหรือสุกจากขอบๆหม้อตุ๋นโดยจะเปลี่ยนสีจากเนื้อครีมเป็นสีน้ำตาลอ่อนใสความเข้มของสีจะเปลี่ยนไปตามน้ำมันในสูตรสบู่การกิดการฟูล้นหม้อการฟูเกิดจากสูตรที่มีน้ำมันแข็งมากทำให้เกิดความร้อนสูงเนื้อสบู่จะฟูขึ้นหม้อทำให้ต้องคอยสังเกตและคนให้สบู่กลับลงมาในก้นหม้อไม่ต้องทำการเปิดหม้อบ่อยๆจะทำให้เนื้อสบู่เกิดการสูญเสียน้ำความชื้นจากเนื้อสบู่โดยไม่จำเป็นหากจำเป็นคนแค่เพียง 1 ถึง 2 ครั้งเท่านั้นเมื่อสบู่สุกจะมีมีลักษณะเป็นเนื้อเจลแบบมันบดขึ้นอยู่กับสีของน้ำมันที่ใช้

หากทำสีเดียวสามารถใส่สีลงไปในหม้อแล้วกวนได้เลยแต่สีบางตัวอาจเกิดการเพี้ยนได้เมื่อผสมสีเข้ากันได้ดีดูเนียนเรียบร้อยเทน้ำหอมใส่แล้วคนให้เข้ากันอีกครั้งจึงตักลงโมลที่เตนรียมไว้สามารถเคาะหรือกระแทกโมลที่พื้นเพื่อให้เนื้อสบู่จับตัวกันแน่นขึ้น
หลังจากเทลงโมลเสร็จจะต้องทิ้งไว้อย่างน้อย 12 ถึง 48 ชั่วโมงขึ้นอยู่กับสูตรน้ำมันอาจต้องใช้เวลาที่นานขึ้นหากใช้น้ำมันอ่อนมากเกินไปเพราะเนื้อสบู่จะนิ่มก่อนที่จะตัดแบ่งเป็นก้อนเล็กสบู่ประเภทกวนร้อนตามทฤษฎีจะทำปฏิกิริยาสะท้อนจะหมดแล้วจากความร้อนในหม้อตุ๋นซึ่งค่า pH ลดลงจนสามารถใช้ฟอกผิวได้ดังนั้นหลังจากตัดสบู่แล้วสามารถนำไปใช้ได้เลยแต่ในที่นี้ ขอให้ตัดสบู่หรือเรียกว่าการบ่มสบู่ทิ้งไวอย่างน้อย 2 สัปดาห์เพราะสบู่แบบกวนร้อนจะมีความนิ่มจากการกักเก็บน้ำที่อยู่ในสูตรเหมือนสบู่กวนเย็นซึ่งระหว่างการบ่มสบู่นี้จะคายน้ำออกมาเรื่อยๆทำให้สบู่แข็งตัวมากขึ้นและการใช้งานนุ่มนวลต่อผิว เครดิต:ข้อมูลจาก Google

สบู่ใบบัวบกว่านนางคำทองพันชั่ง

สบู่ทานาคาชมพูใส่น้ำหมักกล้วย

สบู่ขมิ้นอ้อยผสมรังไหมสีขาว

สบู่ทานาคาชมพู

สบู่รังไหม

วิธีทำสบู่รังไหม HP สบู่กวนร้อน

สูตรน้ำมัน500กรัม

1)น้ำมันเมล็ดในปาล์ม 200 กรัม

2)น้ำมันปาล์ม 150 กรัม

3)น้ำมันรำข้าว 100 กรัม

4)น้ำมันดอกทานตะวัน 50 กรัม

5)โซเดียมไฮดรอกไซด์ 73 กรัม

6)น้ำดื่มสะอาดหรือน้ำ RO 190 กรัม

7)รังไหม 1 กำมือใหญ่

8)น้ำหอม 10 ml.

วิธีการทำ 1)ชั่งน้ำมันทุกชนิดตามอัตราส่วนที่กำหนดรวมไว้ในหม้อตุ๋นเปิดไฟหม้อตุ๋นต่ำสุด

2)ค่อยๆตักโซดาไฟลงในน้ำกวนเบาใส่รังไหมเข้าไปกวนละลายให้เข้ากันแล้วกรองด้วยตะแกรง

3)ค่อยๆเทสารละลายด่างที่ผสมกับรังไหมลงในหม้อตุ๋นกวนให้เข้ากันจนได้เนื้อสบู่ที่ข้น

4)เปิดไฟหม้อตุ๋นแรงสุดในสูตรนี้ใช้เวลาประมาณ 30 นาที สบู่จะค่อยๆเจลจากขอบหม้อเข้ามาตรงกลาง

5)สังเกตดูถ้าสบู่เจลใสสุกดีแล้วให้ปิดไฟคนให้คลายความร้อนสักพักใส่น้ำหอมกวนเร็วๆให้เข้ากันมากที่สุด

6)ตักสบู่ใส่โมลระแทกโมลไล่ฟองอากาศและเพื่อให้เนื้อสบู่แน่นยิ่งขึ้น

7)รอให้สบู่ครบ 12 ชั่วโมงแล้วค่อยนำออกมาตัดเป็นชิ้นตากสบู่ไว้1-2 อาทิตย์เพื่อให้น้ำระเหยออกให้หมดหาผ้าขาวบางมาคลุมเพื่อป้องกันฝุ่นละอองมาเกาะ

หลังจากที่ใส่น้ำด่างกวนสบู่ให้เข้ากันจนเป็นนมข้นหนืด

สบู่กำลังเริ่มเจลจากขอบหม้อเข้ามาตรงกลาง

สบู่เริ่มเจลใสดีแล้วปิดไฟ

สบู่เอาออกจากโมลรอตัด

✅รับสอนทำสบู่น้ำมันธรรมชาติ

✅สนใจสอบถามทาง LINE นี้ 👇👇👇

https://line.me/ti/p/_LJUz1VUnI

📞 โทร 𝟬𝟲𝟱-𝟮𝟯𝟮𝟯-𝟮𝟵𝟯

https://www.facebook.com/kampong.chaknarai?mibextid=ZbWKwL

By.mali

สารสกัดว่านหางจระเข้

🌿ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ด้านความงาม ช่วยในการบำรุงเส้นผมให้เงางามโดยตัดใบสดมาทาลงบนเส้นผมหรือนำวุ้นว่านหางจระเข้ไปปั่นให้ละเอียดจะได้ใช้ง่ายขึ้นจากนั้นนำมาชโลมเส้นผมให้ทั่ว จะช่วยให้ผมสวยเงางามและหากนวดบริเวณรากผมจะช่วยให้รากผมเย็นลงช่วยบำรุงหนังศีรษะรักษาแผลบนหนังศีรษะขจัดรังแคได้

ช่วยรักษาสิว และรอยด่างดำ โดยให้นำเนื้อวุ้นที่ล้างสะอาดทาบริเวณใบหน้าวันละ 2 ครั้งใช้เวลาสัก 1-2 เดือนจะเริ่มเห็นผลว่ารอยต่างๆดูจางลงเพราะว่านหางจระเข้มีฤทธิ์ช่วยยับยั้งการติดเชื้อและมีกรดอ่อนๆช่วยลดความมันบนใบหน้าได้ดี

ช่วยบำรุงผิวกายโดยนำว่านหางจระเข้สดมาปอกเปลือกและล้างให้สะอาดจากนั้นหั่นเป็นชิ้นแล้วนำวุ้นไปแช่ในอ่างอาบโดยระหว่างอาบน้ำให้ใช้เนื้อวุ้นถูตามร่างกายเน้นที่รอยแห้งกร้านอย่างข้อศอก หัวเข่า จะช่วยให้ผิวเนียนนุ่มเต่งตึงขึ้น

ช่วยเติมน้ำให้ผิวโดยเนื้อวุ้นจากว่านหางจระเข้มาพอกหน้าก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเติมน้ำให้ผิวของของเราได้โดยล้างวุ้นให้สะอาดแล้วฝานบางๆมาโปะให้ทั่วใบหน้า 15 นาทีก็ล้างหน้าให้สะอาดผิวจะรู้สึกชุ่มชื้นเต่งตึงขึ้น

#วิธีทำสารสกัดว่านหางจระเข้

ก่อนทำการสกัด ตัดว่านหางจระเข้มา ตั้งชันไว้ 1 คืนปล่อยให้ยางเหลืองไหลออกให้หมดนำมาล้างทำความสะอาดปอกเปลือกล้างเมือกและยางสีเหลือง ป้องกันการระคายเคืองจากยางเหลืองๆ ล้างด้วยน้ำสะอาด 2- 3 รอบ ปล่อยไว้ให้สะเด็ดน้ำ

📌 วุ้นว่านหาง 1000กรัม
📌 propylene glycol 1000 กรัม
📌 สารกันเสียใส่ตามปริมาณของสารแต่ละชนิดที่กำหนดไว้

วิธีทำ👉นำวุ้นว่านหางที่ล้างทำความสะอาดหั่นเป็นชิ้นเล็กลงในโถปั่นให้ละเอียดหลังจากที่ปั่นเรียบร้อยให้เทวุ้นว่านหางลงในโถหมักตามด้วย propylene glycol 1 กิโลกรัมคนให้เข้ากัน หมักไว้จนกว่าจะได้น้ำใสใสจึงกรองออกมาใช้งานเติมในสบู่กรีเซอรีน หรือ ทำเจลทาหน้า หรือโลชั่นต่างๆ ควรใช้ให้หมดภายใน 6 เดือนให้เรากะประมาณว่าใกล้หมดจึง ทำขึ้นใหม่